เมสซี่บู๊เกมหน้า ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เกมนี้ยังคงไม่มี เมสซี่ แต่ว่าไม่มีปัญหาเมื่อกลุ่มบุกมาแทรกเอาชนะ แบรสต์ 4-2 คว้าชัย 3 เกมรวดมีเพิ่มเป็น 9 แต้มเต็มนำหัวหน้าฝูงถัดไป
เมสซี่บู๊เกมหน้า อีกทั้งเกมนี้ อันเดร์ เอร์เรร่า ยิงหนึ่ง-จ่ายหนึ่ง ตอนที่ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ซัดประตูแรกในช่วงฤดูกาลนนี้ได้แล้ว ในศึก ลีก เอิง ประเทศฝรั่งเศส เมื่อคืนนี้วันศุกร์ก่อนหน้านี้ บอล ลีก เอิง ประเทศฝรั่งเศส เมื่อคืนนี้วันศุกร์ที่ 20 เดือนสิงหาคมก่อนหน้านี้ เป็นการชิงชัยนัดหมายสามของฤดู
แบรสต์ ของ มิเชล แดร์ ซากาเรียน ผู้ฝึกสอนชาวอาร์เมเนียวาง สตีฟ มูนี่ เป็นหัวหอกหน้าเป้า โดยใช้ โรแม็ง แฟฟร์ และก็เออร์วิน คาร์โดน่า ปั้นเกมช่วย ทางด้าน เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ นายใหญ่ เปแอสเช ยังไม่มี ลิโอเนล เมสซี่ ซูเปอร์สตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ที่ยังไม่พร้อมเกมนี้ไม่มีหมดทั้งตัวจริง-สำรอง
เหมือนกับ เซร์คิโอ รามอส ที่ยังเจ็บ ตอนที่ เนย์มาร์ ยังอยู่ตอนเรียกความฟิต โดยสองแนวรุกทิ้ง เมาโร อิคาร์ดี้ รวมทั้งคีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ โดยให้ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ขับกึ่งกลางสนามร่วมกับ มาร์โค แวร์กลางคืน แล้วก็อันเดร์ เอร์เรร่า เปิดปากขึ้นมา
เริ่มมา 4 นาทีแรก กลุ่มเยี่ยม เปแอสเช เกือบจะได้ลุ้นขึ้นนำ จากจังหวะต่อบอลกันสวยสดงดงาม เริ่มจาก อัชราฟ ฮาคิมี่ ฝากเข้ากึ่งกลางให้ มาร์โก แวร์รัตติ แทงเร็วให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ หลุดเข้าไปซัดมุมแคบด้วยขวาแม้กระนั้นยังไม่ผ่านเซฟของ มาร์โก บิซ็อต นายด่านของแบรสต์
รูปเกมยังเป็น ปารีสฯ ที่ขึงเกมรุกพับสนามบุกหนักเข้าใส่ นาที12 อิดริสซา เกย์ ผ่านบอลให้ ธิโล่ เคห์เรอร์ เพิ่มมาตั้งป้อมซัดระยะไกลแต่ว่าบอลเหาะคานออกไปไกล
เมสซี่บู๊เกมหน้า อีก 4 นาทีต่อมา เอ็มปั๊ปเป้ เล่นสั้นที่มุมธงกับ ฮาคิมี่ ก่อนที่จะบอลจะมาถึง เอ็มปั๊ปเป้อีกรอบ
แทงเลียดเข้ากรอบให้ มาร์โก แวร์รัตติ ใส่มาซัดสุดแรงเกิดบินคานไปอย่างโชคร้าย แบรสต์ นานๆจะได้ลุ้นนาที 18 เอร์เรร่า ไปเสียฟาวล์หน้ากรอบจุดโทษ ก่อนที่จะ อิยองก้า เอ็มบ็อก จะตะบันฟรีคิกกว่า 25 หลาแม้กระนั้นปั่นบอลผ่านกำแพงออกข้างหลังไปไกลแบบหมดลุ้น
กระนั้นนาที 23 ปารีส แซงต์ แชร์กแมง มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ครอสไปติดหัว ชาร์กดงเนต์ จัดการมาเข้าทาง อันเดร์ เอร์เรร่า วิ่งมาวอลเลย์นอกกรอบแบบไม่จับบอลพุ่งเด้งพื้นก่อนแทรกเสาเข้าไปอย่างงดงาม
นาที32 อับดู ดิยัลโล่ พาบอลควบขึ้นมาด้านซ้ายเข้าไปในกรอบก่อนหักมาหน้าประตูให้ เอ็มบั๊ปเป้ จับบอลแล้วกลับตัวซัดด้วยซ้ายไปติดบล็อคแนวรับแบรสต์ อีกนาทีต่อมา กลุ่มเยี่ยมแทบได้ลุ้นเม็ดสองอีก ข่าวลิเวอร์พูล ล่าสุด
ตอนนี้ ไวจ์นัลดุม แทงทะลุช่องให้ อัชราฟ ฮาคิมี่ หลุดไปเสาแรกก่อนล็อคหนีแนวรับแล้วปั่นซัดด้วยซ้ายไปติดมือ มาร์โก บิซ็อต อย่างโชคร้าย จนแล้วจนรอด นาที 36 เจ้าของบ้านมาบวงสรวงเม็ดลำดับที่สองให้ เปแอสเช บุกมาทิ้งห่าง 2-0
บอลจาก คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ วางออกขวาให้ ฮาคิมี่ ที่วันนี้เพิ่มไม่ลงขึ้นกระแทกชงเข้ากึ่งกลางให้ ไวจ์นัลดุม ซัดไปติดบล็อคเจ้าถิ่นก่อนบอลจะเด้งสูงไปเข้าทาง เอ็มบั๊ปเป้ ที่โถมมากระแทกบอลผ่านมือนายด่านแบรสต์เข้าไป เป็นประตูแรกของเจ้าตัวในช่วงฤดูกาลนี้อีกด้วย
นาที42 แฟนบอลเจ้าของบ้านมาได้เฮกันลั่นบ้าง ข้างหลัง แบรสต์ มาตีไข่แตกไล่ เปแอสเช มา 1-2 จากจังหวะที่ เอ็มปั๊ปเป้ ทำเสียบอลก่อนเจ้าถิ่นสวนกลับเร็วแทงขึ้นหน้าให้ สตีฟ มูนี่ พาบอลเลี้ยงเข้าไปหน้ากรอบก่อนเฉือนเข้ากึ่งกลางให้ โรแม็ง แฟฟร์ ขัดจ่ายเร็วออกขวาให้ ฟร็องค์ โอโนราต์ ทะลุมาซัดเลียดสุดแรงพุ่งผ่านมือ เกย์ลอร์ นาวาส เข้าไปตุงตาข่าย
จบครึ่งแรก แบรสต์ ตามหลัง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 1-2
กลับมาเล่นต่อในช่วงหลัง นาที 48 อัชราฟ ฮาคิมี่ ที่วันนี้เพิ่มเกมรุกสุดสะเด่า ตอนนี้ได้ทดลองหวดเต็มข้อแต่ว่าบอลก็ยังพุ่งแรงไม่ผ่านมือ มาร์โก บิซ็อต รับไว้ได้ นาที68 กางรสต์ ได้ลุ้นตีเสมอข้างหลัง เออร์วิน คาร์โดน่า ดึงบอลหลุดคนเดียวเข้าไปแม้กระนั้นจังหวะยิงไปติดเซฟ นาวาส
กระนั้นถึงแม้ยิงเข้าก็มิได้ประตูข้างหลัง คาร์โดน่า ถูกจับล้ำหน้าไปก่อน นาที73 แปลงเป็น กลุ่มจากเมืองหลวงมาพังทลายประตูนำห่างเป็น 3-1 บอลตลอดจากลูกเตะมุมเลยมาเสาไกล อันเดร์ เอร์เรร่า เก็บบอลได้ก่อนจ่ายเข้ากึ่งกลางให้ อิดริสซา เกย์ ลากเข้ามาซัดระยะไกลเกือบจะ 40 หลาบอลพุ่งติดไซด์ติดปลายมือ บิซ็อต ก่อนแทรกโคนเสาเข้าไปอย่างงดงาม
อีก 5 นาทีถัดมา เป็นจังหวะของเจ้าของบ้านที่กำลังจะได้ลุ้นเม็ดลำดับที่สองไล่มา แต่ โรนาแอล ปิแอร์-กาเบรียล ซัดโล่งๆหน้าประตูไม่ถึง 5 หลาแม้กระนั้นดันไปตรงตัว นาวาส ที่เซฟไว้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เจ้าของบ้านไม่ยินยอมง่ายนาที 85 ไล่เปแอสเชมาเป็น 2-3 จากจังหวะที่บอลครอสมาเสาไกลถึง สตีฟ มูนี่ ซัลโวผ่านมือ เกย์ลอร์ นาวาส เข้าไปอย่างเด็ดขาด ตอนทดเจ็บนาที 90+1 ปารีส มากมายระทุ้งประตูปิดกล่องให้กลุ่มเยี่ยมหนีไป 4-2 จากจังหวะสวนกลับเร็ว
อังเคล ดิ มาเรีย พาบอลขึ้นมาก่อนชิ่งกับ ฮาคิมี่ เล่นหนึ่งสองจ่ายจังหวะเดียวกับ ดิ มาเรีย หลุดเข้าไปก่อนกระดกบอลไม่เห็นหัวนายด่านแบรสต์เข้าไปอย่างเหนือชั้น จบเกม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง บุกมาคว้าชัย แบรสต์ 4-2 คว้าชัยสามนัดหมายรวด มี 9 แต้มเต็มนำเป็นผู้นำฝูงถัดไป
https://www.kyracquetball.com/