น่าสนใจ ศึกพรีเมียร์ลีก เข้าสู่โปรแกรมนัดที่ 30 เข้ามันส์ยังคงระอุ การชิงชัยแชมป์ระหว่าง แมนฯ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล ยังร้อนระอุต่อเนื่อง 

น่าสนใจ ศึกพรีเมียร์ลีก เข้าสู่โปรแกรมนัดที่ 30 เข้ามันส์ยังคงระอุ การชิงชัยแชมป์ระหว่าง แมนฯซิตี้ กับลิเวอร์พูล ยังร้อนระอุต่อเนื่อง สัปดาห์นี้มีอะไรน่าสนใจบ้างไปดูกันได้เลย! “ลิเวอร์พูล-วัตฟอร์ด” เกมเปิดหัวคืนวันเสาร์เริ่มเตะเวลา 6 โมงครึ่ง

หากลิเวอร์พูล ชนะหรือเสมอจะทำให้พวกเขาแซงหน้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นไปเป็นจ่าฝูง โดยฝ่ายหลังจะมีคิวเตะกับ เบิร์นลี่ย์ ในช่วงเวลา 3 ทุ่มตรง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มีส่วนร่วมกับประตูโดยตรงใส่ วัตฟอร์ด รวมกัน 11 ลูกจาก 7 เกมที่เจอกัน

โดยแบ่งเป็นทำสกอร์ 9 และแอสซิสต์ 2 ขณะที่แข้งทีมชาติอียิปต์ มีค่าเฉลี่ยมีประตูกับแอสซิสต์ทุกๆ 57 นาทียามเจอ “แตนอาละวาด” “เดอะ ฮอร์เน็ตส์” เก็บแต้มทีมเยือนได้ 8 คะแนนจาก 6 เกมหลังภายใต้การคุมทีมของ รอย ฮ็อดจ์สัน (ชนะ2 เสมอ2 แพ้3)

เทียบเท่ากับสถิติก่อนหน้านี้ 17 นัดที่ออกไปเยือน (ชนะ2 เสมอ2 แพ้13) โดยเกมล่าสุด วัตฟอร์ดบุกชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน มาได้  ทว่าพวกเขาไม่ชนะเกมเยือน 2 นัดติดบนเวทีลีกสูงสุดตั้งแต่เดือนกันยายน ปี2017 ชูโช่ เอร์นานเดซ ดาวเตะ วัตฟอร์ดมีส่วนร่วมกับประตู

โดยตรง 4 ลูกจาก 3 เกมลีกหลังสุด ( 3ประตู 1แอสซิสต์) มากกว่าก่อนหน้านี้ที่เขาต้องใช้เวลามากถึง 19นัด (2ประตู 1แอสซิสต์) “เบิร์นลี่ย์-แมนฯซิตี้” ริยาด มาห์เรซ ปีกแมนฯซิตี้ มีสถิติทำประตูใส่ เบิร์นลี่ย์ ได้มากกว่าทีมไหนๆ ในลีก(8ประตู)

อย่างไรก็ตามเจ้าตัวยิงที่สนาม เทิร์ฟ มัวร์ ได้แค่เม็ดเดียวเท่านั้น “เรือใบสีฟ้า” เอาชนะ เบิร์นลี่ย์ ได้ตลอด 9 นัดที่เจอกันทุกรายการ โดยมีสกอร์รวมห่างมากถึง 32-1 ขณะเดียวกัน ตลอดหน้าประวัติศาสตร์ของทีมที่เจอกับคู่แข่งมาแล้วหลายต่อหลายราย

แมนฯซิตี้เคยชนะคู่แข่งรายเดิมได้อย่างน้อย 10 เกมติดต่อกันเป็นจำนวน 6 ครั้ง ซึ่งในจำนวนนั้นมีถึง 5 หนที่เกิดขึ้นในยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เกมที่แมนฯซิตี้ ทำประตู คริสตัล พาเลซ ไม่ได้ในเกมก่อนนั้น นับเป็นครั้งที่ 4 ในซีซั่นนี้ที่พวกเขายิงคู่แข่งไม่ได้

น่าสนใจ ซึ่งฤดูกาลสุดท้ายที่ ซิตี้ ยิงประตูไม่ได้ 5 เกมในซีซั่นเดียวต้องย้อนไปเมื่อปี 2016/17 3 เกมหลังสุดของ เบิร์นลี่ย์ จบลงด้วยผลต่างสกอร์ 0-8 แม้ว่าในเกมจำนวนดังกล่าว พวกเขาจบครึ่งแรกด้วยผลเสมอ ขณะที่ครั้งสุดท้ายที่ “เดอะ คลาเร็ตส์” แพ้ 4 เกมติดโดยยิงคู่แข่งไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี2015 บ้านผลบอลเมื่อคืน

น่าสนใจ

เกมเปิดหัวคืนวันเสาร์เริ่มเตะเวลา 6 โมงครึ่ง หากลิเวอร์พูล ชนะหรือเสมอจะทำให้พวกเขาแซงหน้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้

น่าสนใจ “เชลซี-เบรนท์ฟอร์ด” ไค ฮาแวร์ตซ์ ดาวยิงทีมชาติเยอรมนีของ เชลซี ยิงประตู 3 เกมหลังได้ถึง 4 ลูกบนศึก พรีเมียร์ลีก เทียบเท่ากับสถิติก่อนหน้านี้ที่เขาใช้เวลา 21นัด โดยเจ้าตัวมองหาการทำประตู 4 เกมลีกติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2019 เวลส์มีโอกาส

ที่เขาเคยทำได้สมัยอยู่ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น “สิงห์บลูส์” เอาชนะ 6 จาก7 เกมหลังสุดในเกมดาร์บี้ กรุงลอนดอน ซีซั่นนี้ ซึ่งเกมเดียวที่แพ้คือพ่าย เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-3 ซึ่งเกมนั้นเป็นเกมเดียวที่พวกเขาเสียประตูในเกมดาร์บี้ ซีซั่นนี้

เบรนท์ฟอร์ด ตั้งเป้าที่จะเก็บชัยเหนือ เชลซี ให้ได้เป็นครั้งแรก หลังก่อนหน้านี้เจอกัน 8 นัดทุกรายการไม่ชนะเลย (เสมอ1 แพ้7) ไม่มีทีมไหนที่ทำประตูจากนอกกรอบเขตโทษใน พรีเมียร์ลีก ไปมากกว่า เชลซี อีกแล้ว (8) ขณะที่ เบรนท์ฟอร์ด เสียประตูนอกรอบมากที่สุดในลีก (10)

“แมนฯยูไนเต็ด-เลสเตอร์” คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงโปรตุกีสของ แมนฯยูไนเต็ด ทำประตูในลีกไปแล้ว 12 ลูก โดยในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก มีผู้เล่นที่อายุมากกว่า 36 ปีที่ยิงประตูได้มากกว่า CR7 คือ จานฟรังโก้ โซล่า เท่านั้น ซึ่งทำได้ 14 ลูกตอนซีซั่น 2002/03

ผู้เล่นตัวสำรองของ “ปีศาจแดง” ลงมาแล้วยิงประตูได้มากสุดในลีกซีซั่นนี้ (10ประตู) โดย มาร์คัส แรชฟอร์ด ทำได้ถึง 4 ลูกจากการลงสนามในฐานะซูเปอร์ซับ ขณะเดียวกัน ไม่มีทีมไหนในลีกที่จะเสียประตูให้กับผู้เล่นตัวสำรองของฝั่งตรงข้ามไปมากกว่า เลสเตอร์ อีกแล้ว (7)

ฤดูกาลก่อน “เดอะ ฟ็อกซ์” บุกชนะที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด 2-1 และพวกเขามีโอกาสที่จะบุกเก็บชัยที่นี่ 2 ปีติดต่อกันเป็นครั้งแรก นอกจากนี้เกมแรกที่เจอกันในซีซั่นนี้ เลสเตอร์ เป็นฝ่ายกำชัย 4-2 ซึ่งพวกเขาก็มองหาการชนะ “ปีศาจแดง” ไป-กลับเป็นครั้งแรกบนศึก พรีเมียร์ลีก เช่นกัน

“สเปอร์ส-นิวคาสเซิ่ล” ซน ฮึง-มิน แข้งพลังโสมของ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ทำประตูที่ ท็อตแน่ม ฮ็อตสปอร์ สเตเดี้ยม 8 ลูกจาก 8 เกมหลังในศึก พรีเมียร์ลีก ซึ่งเขาก็เป็นผู้เล่นที่ทำประตูได้มากสุดในบ้านตัวเองซีซั่นนี้ (10) โดยนี่เป็นครั้งแรกที่ทำสถิติดังกล่าวได้

นับตั้งแต่กลับขึ้นมาเล่นลีกสูงสุดเมื่อปี 2017 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เอาชนะ “ไก่เดือยทอง” ได้เพียงครั้งเดียวจาก 9 เกมที่เจอกัน (เสมอ 2 แพ้ 6) โดยชัยชนะนั้นเกิดขึ้นในเกมออกไปเยือนเมื่อเดือนสิงหาคม ปี2019 (1-0)

คลับไก่ คว้าชัยในลีก 4 จาก 5 เกมหลัง(แพ้ 1) โดยที่ก่อนหน้านนั้น 5 นัดแพ้ไปถึง 4 เกม(ชนะ 1) นอกจากนี้ สเปอร์ส ทำประตูได้อย่างน้อยสองลูกตลอด 5 เกมหลัง ซึ่งครั้งล่าสุดที่พวกเขาทำสถิติดังกล่าวได้มากกว่านั้นเกิดขึ้นตอนช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน (7นัด)

น่าสนใจ “สาลิกาดง” ไม่เสียประตูเกิน 1 ลูกเลยในช่วง 11 เกมหลังในศึก พรีเมียร์ลีก อีกทั้งยังทำได้ 8 ประตูในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งมีแค่ 2 ครั้งเท่านั้นที่พวกเขาทำสถิตินี้ได้มากกว่าโดยเกิดขึ้นช่วงเดือนพฤศจิกายน 2003 ถึงเดือนมีนาคม 2004 (18 เกม) และ 12 ครั้งตอนเดือนมีนาคม ถึงสิงหาคม 1997 https://www.ozbodyfit.com