ยึดด้านหลังเกม สวิตเซอร์แลนด์ เสียโอกาสเก็บสามแต้มข้างหลังโดน เวลส์ ไล่หลังตีเสมอแบ่งแต้มไปด้วยสกอร์ 1-1 

ยึดด้านหลังเกม สวิตเซอร์แลนด์ เสียโอกาสเก็บสามแต้มข้างหลังโดน เวลส์ไล่หลังตีเสมอแบ่งแต้มไปด้วยสกอร์ 1-1 แถมมาโดนวีเออาร์ยึดประตูในช่วงท้ายเกม นำมา ซึ่งการทำให้ อิตาลี เส้นทางสดใส นำเป็นหัวหน้าฝูงของกลุ่มเอ แบบผู้เดียวๆ ในศึกยูโร 2020

เมื่อคืนนี้วันเสาร์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ศึกฟุตบอลยูโร2020 รอบในที่สุดครั้งแรกของกลุ่มเอ ประจำวันเสาร์ที่ 12 เดือนมิถุนายน 2564 ที่สนาม บากี โอลิมปิย่า สตาดิโอนู เมืองบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน เป็นการเจอกันระหว่าง เวลส์เจอ สวิตเซอร์แลนด์

ทีมชาติเวลส์ ของผู้ฝึกสอน โรเบิร์ต เพจ เกมนี้ส่ง แกเร็ธ เบล นำกองทัพในแนวรุกติดต่อประสานงานร่วมกับ แดเนี่ยล เจมส์ แล้วก็ คีฟเฟอร์ มัว ล่าตาข่าย ด้านทีมชาติ สวิตเซอร์แลนด์ของผู้ฝึกสอน

วลาดิเมียร์ เพ็ตโควิช เกมนี้ไม่มีปัญหาที่เกิดขึ้นกับการจัดกองทัพส่ง กรานิค ชาก้า กัปตันกลุ่มคุมเกมแดนกลาง ส่นแนวรุกใช้ เชอร์ดาน ชากิรี่ ทำเกมเกื้อหนุนคู่แนวรุกอย่าง บรีล เอ็มโบโล่ รวมทั้ง ฮาริส เซเฟโรวิช

เปิดตัวครึ่งแรกมา 6 นาที สวิตเซอร์แลนด์ได้โอกาสทักก่อนจากจังหวะครอสจากกราบซ้ายของ ริคาร์โด้ โรดริเกซ เปิดเข้าจุดโทษให้ เควิน เอ็มบาบู สอดมาโหม่งบอลไปไถลแนวรับเวลส์ ออกข้างหลังไป

เวลส์ได้โอกาสตอบโต้กลับมาบ้างแลแทบได้ประตูขึ้นำก่อนในนาทีที่ 15 เมื่อ แดเนียล เจมส์ ลากมาทางด้านซ้ายแล้วเปิดเข้าจุดโทษให้ คีฟเฟอร์ มัวร์ เทคตัวขึ้นโหม่งเหน่งๆแม้กระนั้น กระทั่งถึงน์ ซอมเมอร์ โชว์ซูเปอร์เซฟบินปัดออกข้างหลัง

เกมเริ่มออกรสออกชาติมากยิ่งขึ้น นาทีที่ 20 สวิสฯ แทบขึ้นนำบ้าง ฟาเบียน แชร์ วิ่งสอดมาไขว้ยิงโล่งๆจากลูกเตะมุม แม้กระนั้นยังติดเซฟของ แดนนี่ วอร์ด ใช้เท้าสกัดได้หวุดหวิด บ้านผลบอลเมื่อคืน

ยึดด้านหลังเกม

โดนวีเออาร์ยึดประตูในช่วงท้ายเกมนำมา ซึ่งการทำให้ อิตาลีเส้นทางสดใส 

ยึดด้านหลังเกม จังหวะของกองทัพแดนนาฬิกามาตลอดนาทีที่ 27 ฮาริส เซเฟโรวิช ล็อกเข้าซ้ายแล้วได้กดได้จุดโทษบอลข้านคานออกไปน้อยมาก ด้านหลังครึ่งแรก นาทีที่ 45 สวิสฯ ชวดขึ้นนำอย่างโชคร้าย

จากจังหวะที่ บรีล เอ็มโบโล่ ไหลใส่พานให้ ฮาริส เซเฟโรวิช ได้ยืนซัดเตียนๆหน้าปากประตูแต่ว่ายิงไม่ถูกเหลี่ยมบอลโผบินผ่านคานออกไปแบบน่าผิดหวัง ทำให้จบครึ่งแรกทั้งคู่กลุ่มยังเสมออยู่ 0-0

ช่วงหลังเล่นมาได้ 4 นาที สวิสฯ แทบขึ้นนำอีกทีเมื่อ บรีล เอ็มโบโล่ ใช้ความรู้เฉพาะบุคคลวิ่งทะลุแนวรับ เวลส์มากดด้วยขวานอกกรอบ แดนนี่ วอร์ด ปัดทิ้งออกข้างหลัง

จนกว่านาทีต่อมาจากจังหวะสม่ำเสมอจากลูกเตะมุม เชอร์ดาน ชากิรี่ เปิดมาเขาหัว บรีล เอ็มโบโล่ คนเดิมขึ้นโหม่งเน้นๆจ่ายบอลตุงตาข่ายให้ สวิตเซอร์แลนด์ขึ้นนำ เวลส์1-0 ในนาทีที่ 49

นาที 66 เวลส์ได้โอกาสตามตีเสมอเหมือนกันเมื่อแนวรับ สวิส สกัดบอลมาเข้าทางของ เบน เดวิส ได้กดด้วยซ้านหน้าจุดโทษบอลไถลหน้าแข้งสวิสผ่านคานออกข้างหลังไปเล็กน้อย

จากนั้น นาที 65 บรีล เอ็มโบโล่ แทบจะทำแต้มลำดับที่สองของตนเองในเกมนี้เมื่อเอี้ยวตัวปั่นด้วยขวาบอลหลุดเสาไกลออกไปนิดนึง อย่างไรก็แล้วแต่ เวลส์มีรูปเกมดียิ่งขึ้นจนกระทั่งมาตามตีเสมอ 1-1

ในนาทีที่ 74 จากจังหวะฟรีคิกหน้าจุดโทษเขี่ยเปลี่ยนจุดให้ โจ มอร์เรลล์ เปิดโค้งเข้าจุดโทษให้ คีฟเฟอร์ มัวร์ สอดมาโขกเต็มๆเข้าประตูไป ช่วงท้ายเกมนาที 85 บรีล เอ็มโบโล่ โหม่งบอลถวายพนให้ มาริโอ กาฟราโนวิช ที่พึ่งลงมาเป็นตัวสำรองโหม่งโล่งๆเข้าประตูไป

แต่ว่าผู้ช่วยเช็กวีเออาร์ยึดประตูคืนเนื่องมาจากเจ้าตัวยืนล้ำหน้าไปก่อนแล้ว ในช่วงเวลาที่เหลือทั้งคู่กลุ่มทำอะไรกันไม่ได้ จบเกม เวลส์เสมอ สวิตเซอร์แลนด์1-1 แบ่งกันไปทีมละแต้มนำมาซึ่งการทำให้ อิตาลี นำเป็นผู้นำฝูงของกลุ่มเอแบบโดดเดี่ยวๆ

รายชื่อผู้เล่นทั้งคู่ทีม เวลส์ (3-4-3) : แดนนี่ วอร์ด – คริส เมแพม, โจ โรดอน, เบน เดวิส, คอนเนอร์ โรเบิร์ตส์ – แอรอน แรมซี่ย์ (อีธาน อัมปาดู น.90+3), โจ มอร์เรลล์, โจ อัลเลน – แกเร็ธ เบล, คีฟเฟอร์ มัวร์, แดเนี่ยล เจมส์ (เดวิด บรู๊ค น.75)

ยึดด้านหลังเกม สวิตเซอร์แลนด์ (3-4-1-2) : ยันน์ ซอมเมอร์ – นิโก้ เอลเวดี้, มานูเอล อาคานจี, ฟาเบียน แชร์ – เควิน เอ็มบาบู, กรานิต ชาก้า, เรโม่ ฟรอยเลอร์, ริคาร์โด้ โรดริเกซ – เชอร์ดาน ชากิรี่ (เดนนิส ซากาเรีย น.66) – บรีล เอ็มโบโล่, ฮาริส เซเฟโรวิช (มาริโอ กาฟนาโนวิช น.84) อินทรีปีกหัก