หงส์มาแรง ลิเวอร์พูลทำผลงานออกมาดี สามารถพิชิตชัยชนะได้ฉลุย งานนี้ถือว่าเป็นเกมส์ที่ง่ายมาก

หงส์มาแรง ถือว่าผ่านยกแรกไปได้ด้วยผลงานที่น่าประทับใจพอตัว สำหรับลิเวอร์พูล จากการที่พวกเขาบุกไปชนะ เบนฟิก้า 3-1 ในถึง เอสตาดิโอ ดา ลุซ ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อวันอังคารที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมา

ชัยชนะดังกล่าวนอกจากจะทำให้ลิเวอร์พูล กุมความได้เปรียบอย่างมากก่อนกลับไปเล่นนัดสองที่ แอนฟิลด์ ในวันพุธที่ 13 เมษายนนี้แล้วนั้น มันยังทำให้นี่ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาตร์ของทัพ “หงส์แดง” ที่สามารถเอาชนะเกมเยือนได้ถึง 8 นัดติดต่อกันจากทุกรายการด้วย

ทั้งนี้ นอกจากสถิติดังกล่าวแล้วนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นในเกมนี้ยังทำให้เกิดเกร็ดที่น่าสนใจอีกหลายอย่างเกี่ยวกับ ลิเวอร์พูลด้วย และวันนี้เราก็จะมายกตัวอย่างของเกร็ดเหล่านั้นสักหน่อย อันตรายหลายคน หลังย้ายมาจาก แอร์เบ ไลป์ซิก เมื่อช่วงซัมมอร์ ปีก่อน

อิบราฮิม่า โกนาเต้ กองหลังชาวฝรั่งเศสก็ใช้เวลาไปทั้งหมดเพียง 20 เกม ก่อนที่จะเบิกสกอร์แรกให้กับทีมได้ในเกมกับ เบนฟิก้า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ผลงานของ โกนาเต้ ทำให้เท่ากับว่าในฤดูกาลนี้มีนักเตะ ลิเวอร์พูลถึง 20 คน ที่ทำประตูได้อย่างน้อย 1 ลูก

หากนับรวมทุกรายการ จนทำให้ทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นทีมที่มีแข้งทำประตูได้ไม่ซ้ำหน้าเยอะที่สุดในกรณีที่นับเฉพาะทีมจาก พรีเมียร์ลีก ด้วยกัน โดยแม้แต่ เคด กอร์ดอน แนวรุกวัยเพียง 17 ปี ยังทำประตูให้กับทีมชุดใหญ่ของพวกเขาได้เลย

ลางดี ? อย่างที่บอกไปในเบื้องต้นว่าชัยชนะในนัดล่าสุดทำให้เท่ากับว่าตอนนี้ ลิเวอร์พูลเก็บชัยนอกบ้านแบบนับรวมทุกรายการมากถึง 8 นัดติดต่อกันได้เป็นครั้งแรก แต่นอกจากนั้นแล้วนี่ก็ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ซีซั่น 1983-84

หงส์มาแรง ที่พวกเขาชนะเกมเยือนในศึกชิงถ้วยบิ๊กเอียร์ได้ 5 นัดรวดเช่นกัน โดย 4 ชัยชนะนอก แอนฟิลด์ ก่อนหน้านี้ในฤดูกาล 2021-22 คือการทุบ เอฟซี ปอร์โต้ 5-1, เฉือนชนะ แอตเลติโก มาดริด 3-2, บุกทุบ เอซี มิลาน 2-1 และคว้าชัยเหนือ อินเตอร์ 2-0 https://www.kyracquetball.com

หงส์มาแรง

ฟอร์มลิเวอร์พูลมาแรงมาก ทุบเบนฟิก้าไป 3-1

หงส์มาแรง ทั้งนี้ ชัยชนะเกมเยือนในศึกชิงถ้วย “บิ๊กเอียร์” 5 นัดติดต่อกันของลิเวอร์พูล ชุดซีซั่น 1983-84 นั้น เกิดขึ้นในสมัยที่มันเตะกันแบบรอบน็อกเอาต์ไปเลย ไม่มีรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งครั้งนั้นพวกเขาบุกไปชนะ โอเดนเซ่น 1-0 ในนัดแรกของรอบแรก, ได้ตามเป้า

พิชิต แอธเลติก บิลเบา ที่สเปนด้วยสกอร์ 1-0 ในนัดสองของรอบสอง, บุกต้อน เบนฟิก้า 4-1 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง, ออกไปทุบ ดินาโม บูคาเรสต์ 2-1 ในนัดสองของรอบรองชนะเลิศ และถึงแม้ตามหลักการแล้วนัดชิงชนะเลิศจะเตะกันที่ “สนามเป็นกลาง”

จากการที่เลือกเจ้าภาพเอาไว้ก่อนแล้ว แต่ครั้งนั้น ลิเวอร์พูลเหมือนเป็นทีมเยือนก็ว่าได้ เพราะมันเตะกันที่ สตาดิโอ โอลิมปิโก รังเหย้าของ อาแอส โรม่า และคู่แข่งของพวกเขาก็คือ “หมาป่าเหลือง-แดง” นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วในเกมนั้น ลิเวอร์พูลก็เอาชนะ โรม่า ในช่วงดวลจุดโทษจนทำให้พวกเขาได้ถ้วย “บิ๊กเอียร์” ไปครองเป็นสมัยที่ 4 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร ก็ไม่รู้ว่าฤดูกาลนี้มันจะตามรอยเมื่อครั้งนั้นหรือไม่

2 คนนำโชคที่ต่างก็ทำประตูได้ จนถึงตอนนี้ โกนาเต้ ได้ลงเล่นให้กับลิเวอร์พูล ในทุกรายการไปรวมแล้ว 20นัด และจนถึงตอนนี้ก็กลายเป็นว่า ลิเวอร์พูลยังไม่เคยแพ้เลยในเกมที่มี โกนาเต้ ลงสนาม แบ่งเป็นการชนะ 15 เกมกับเสมอ 5หน

ขณะเดียวกัน ด้วยความที่เคยอยู่กับ เอฟซี ปอร์โต้ มาก่อน ทำให้นี่นับเป็นครั้งที่ 8 เข้าไปแล้วที่ หลุยส์ ดิอาซ ได้เผชิญหน้ากับ เบนฟิก้า และตอนนี้เขาก็ยังไม่แพ้เลยในการเจอกับ “เหยี่ยวลิสบอน” แบ่งเป็นการชนะ 6 เกมกับเสมอ 2นัด

และก็อย่างที่รู้กันดีว่าทั้งคู่ทำประตูให้ทีมได้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาด้วย ความโหดของ มาเน่ การทำได้ 1 ประตูที่ โปรตุเกส เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาทำให้ตอนนี้เท่ากับว่า มาเน่ สามารถทำประตูในรอบน็อกเอาต์ (หมายถึงตั้งแต่รอบ 16 ทีมสุดท้ายขึ้นไป)

ของเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ถึง 13 ลูก หากนับตั้งแต่ฤดูกาล 2017-18 เป็นต้นมา เชื่อหรือไม่ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวเขายิงในรอบน็อกเอาต์ของเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้มากกว่า ลิโอเนล เมสซี่ ด้วยซ้ำ หลังจากดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ทำได้ 12ลูก

หงส์มาแรง ทั้งนี้ 13 ประตูในรอบน็อกเอาต์จากเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ของ มาเน่ ตั้งแต่ซีซั่น 2017-18 เป็นต้นมานั้น ถือว่าเท่ากับที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำได้ในช่วงเวลาเดียวกันด้วย และนั่นหมายความว่าตอนนี้เขามีโอกาสที่จะยิงได้มากกว่า โรนัลโด้ เป็นที่แน่นอน ข่าวลิเวอร์พูล ล่าสุด