เกมเดือดจัด “สิงห์บลูส์” ทวงแค้นเร่งเครื่องบดเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ไปได้แบบสนุกสนาน 2-1 เก็บสามแต้มแซงกองทัพหมาจิ้งจอกขึ้นที่ 3 ในทันที 

เกมเดือดจัด “สิงห์บลูส์” ทวงแค้นเร่งเครื่องบดเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ไปได้แบบสนุกสนาน 2-1 เก็บสามแต้มแซงกองทัพหมาจิ้งจอกขึ้นที่ 3 ในทันที โดยมี 67 แต้ม ส่วนกองทัพของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส หยุดที่ 66 คะแนน

ซึ่งแม้ “ลิเวอร์พูล” บุกไปเอาชนะเบิร์นลี่ย์ได้จะมีแต้มเท่าเลสเตอร์ทันที่แถมลูกได้เสียดีมากยิ่งกว่าจะก่อให้ “จิ้งจอกสยาม” ร่วงไปอยู่ชั้น 5 จำเป็นต้องไปชี้ชะตาลุ้นตั๋ว ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ในเกมในที่สุด สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

เกมบิ๊กแมตช์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอังคารที่ 18 พ.ค.ก่อนหน้านี้ เป็นรีแมตช์นัดหมายชิง เอฟเอ คัพ ระหว่าง เชลซี อันดับ 4 เปิดสแตมฟอร์ด บริดจ์รับการมาเยี่ยมของ เลสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 3 ที่พึ่งจะแทรก “สิงห์บลูส์”ครอบครองแชมป์ เอฟเอคัพ มาเป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์ 137 ปี สมาคม เมื่อวันเสาร์ก่อนหน้านี้

โธมัส ทูเคิ่ล ผู้ฝึกสอนกองทัพสิงห์บลูส์ เกมนี้กลับมาใช้ เอดูอาร์ เมนดี้ เฝ้าเสาให้ คริสเตียน พูลิซิช ลงปั้นเกมร่วมกับ เมสัน เมาน์ท แล้วก็ให้ ติโม แวร์เนอร์ ยืนค้ำหน้า ส่วนทางฝั่ง “จิ้งจอก” ฟอร์มกำลังเชื่อมั่นแถมสถิติมาเยี่ยมที่ เดอะ บริดจ์ ในตอนหลังไม่แพ้ให้เชลซี

เกมนี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ยังให้ ยูริ ตีเลมันส์ วีรบุรุษจากเกมเอฟเอ คัพ ปั้นเกมรุกร่วมกับ ส่วนแนวรุก พัก เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ให้ อาโยเซ่ เปเรซ ยืนจับคู่กับ เจมี่ วาร์ดี้ ออกตัวเกมมาเพียงแค่ 4นาทีแรก เจ้าของบ้าน เชลซีแทบได้ลุ้นขึ้นนำ ติโม แวร์เนอร์ ควบบอลพามากยิ่งขึ้นลางประตูก่อนไหลออกซ้ายให้ เบน ชิลเวลล์ เติมเข้ามาซัดด้วยซ้ายออกข้างหลังไปแบบได้เสียว

เชลซี ดาหน้าเปิดเกมรุกเข้าใส่อย่างมาก นาที9 เอ็นโกโล่ ก็องเต้ หลุดเข้าไปซัดมุมแคบสุดแรงเกิดแต่ว่า คาสเปอร์ ชไมเคิ่ล ยังปัดออกไป บอลมาถึง คริสเตียน พูลิซิช ชิ่งกับก็องเต้ก่อนที่จะไหลคืนมาให้ พูลิซิช ซัดไปไถล ยูริ ตีเลมันส์ ออกข้างหลังเฉียด

นาที22 แฟนสิงห์บลูส์ในเดอะ บริดจ์จำต้องเฮกันเสียเวลาเปล่าข้างหลัง เมสัน เมาน์ท พนันบอลทะลุให้ ว่ากล่าวโม แวร์เนอร์ ซัดแทรกเสาแรกเข้าไปแล้ว แต่ว่าโดนผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน ชวดได้ประตูขึ้นนำอย่างโชคร้าย

นาที26 ช่องทางลุ้นทีแรกของ “เดอะ ฟ็อกซ์” จากลูกคอนเนอร์ทางฝั่งซ้าย ยูริ ตีเลมันส์ เปิดมาให้ เจมี่ วาร์ดี้ แต่ว่าบอลมันย้อนไปไปทำให้จำเป็นต้องดีดด้วยข้างเท้าเหินคานออกไป

ไม่ถึงสองนาทีต่อมา เมสัน เมาน์ท ตะลุยแปลกรับจิ้งจอกเข้ามาก่อนบอลไปติด โซยุนชู แม้กระนั้นยังไปเข้าทาง เมาน์ท เก็บตกในกรอบซัดไปติดปลายมือ ชไมเคิ่ล ออกข้างหลังไป นาที31 โธมัส ทูเคิ่ล จำเป็นต้องสลับตัวคนแรกข้างหลัง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เล่นต่อไม่ไหวมีความรู้สึกเจ็บจะต้องส่ง มาเตโอ โควาซิช ลงมาเล่นแทน

นาที35 ว่ากล่าวโม แวร์เนอร์ กระแทกบอลจ่อๆผ่านเส้นประตูไปแล้วแม้ว่าจะโดน ติดอยู่สเปอร์ ชไมเคิ่ล ปัดออกมา โดยตอนแรก ไมค์ ดีน ผู้ตัดสินให้เจ้าของบ้านได้ประตูไปหลังหรือก่อนมีสัญญาณโกลไลน์ว่าบอลผ่านเส้นไปแล้ว แต่ทว่าถัดมา วีเออาร์ เช็กย้อนไปว่าลูกนี้บอลไปโดนแขน แวร์เนอร์ ก่อนทำให้เจ้าของบ้านโดนยึดสกอร์ ชวดได้ประตูขึ้นนำอีกรอบ

เกมเดือดจัด เชลซี ยังโหมบุกเข้าใส่ทัพจิ้งจอกเป็นลมพายุ นาที43 เกือบจะได้ลุ้นขึ้นนำอีกข้างหลัง เมสัน เมาน์ท เลี้ยงแหวกเข้าไปในกรอบสุดเส้นข้างหลังก่อนเฉือนมาเสาแรกให้ คริสเตียน พูลิซิช ซัดไปติด ชไมเคิ่ล ก่อนบอลมาโดนพูลิซิชออกข้างหลังไป บ้านผลบอลเมื่อคืน

จบครึ่งแรก เชลซี ที่จังหวะยิงถึง 11 ครั้งยังทำอะไร เลสเตอร์ มิได้ เสมอแบบไม่มีสกอร์ 0-0

เกมเดือดจัด กลับมาเล่นต่อในช่วงหลัง เพียงแค่ นาที47 เชลซี มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เบน ชิลเวลล์ เปิดเตะมุมมาเสาแรก เจมี่ วาร์ดี้ กระแทกสกัดไม่ดีเปลี่ยนเป็นเช็ดถูบอลไปในกรอบ 6 หลาโดนต้นขา อันโตนิโอ รือดิเกอร์ เข้าประตูไป

นาที64 สิงห์บลูส์ ยังครอบครองเกมได้เหนือกว่า ครั้งนี้แทบได้ลุ้นเม็ดสองข้างหลัง ติโม แวร์เนอร์ ควบบอลเข้าไปในกรอบแต่ว่าจังหวะยิงโดน ติโมธี คาสตาญ แทรกทำให้ยิงไปเข้ามือคาสเปอร์ ชไมเคิ่ล

กระนั้น นาที66 ติโม แวร์เนอร์ โดน เวสลี่ย์ โฟฟาน่าฟาวล์เตะขาจากด้านหลัง ถึงแม้หัวหอกกลุ่มชาติเยอรมันจะมาล้มลงนอกกรอบ แม้กระนั้นวีเออาร์เช็กแล้วว่าเกิดเหตุในจุดโทษทำให้ ไมค์ ดีน เป่าให้จุดลูกโทษแก่สิงห์บลูส์ ก่อนที่จะ จอร์จินโญ่ จะปฏิบัติหน้าที่ยิงจุดลูกโทษเข้าไปไม่พลาดให้ เชลซี นำห่าง 2-0

นาที76 เลสเตอร์ ได้ลุ้นเช่นกัน ข้างหลัง อิเฮียนาโช่ ผู้เล่นสำรองที่พึ่งลงมาซัดกึ่งกลางประตูถากเสาออกไปแบบได้เสียว กระนั้นไม่ถึงนาทีต่อมา “จิ้งจอกสยาม” ตีไข่แตกคืนกลับสู่เกมไล่ เชลซีมาเป็น 1-2

จากจังหวะที่ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ตัดบอลได้ก่อนจ่ายเข้ากึ่งกลางให้ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ที่ยืนโล่งซัดผ่านมือ เอดูอาร์ เมนดี้ เข้าไป เป็นประตูที่ 12 ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ นาทีในที่สุด นาที90 เลสเตอร์แทบทวงประตูตีเสมอได้

ข้างหลัง ริคาร์โด้ เปเรยร่า ปาดบอลมากมายลางประตูให้ อาโยเซ่ เปเรซ วิ่งมาซัดเหาะคานไปแบบได้ลุ้น ตอนทดเจ็บ นาที90+2 เกมเดือดข้างหลัง ริคาร์โด้ เปเรยร่า ไปเข้าหนักใส่ เบน ชิลเวลล์ ก่อนทั้งคู่กลุ่มจะทะเลาะเบาะแว้งวิ่งไปกระทบกระทั่งกัน

กระทั่งคณะทำงานสต๊าฟของทั้งคู่กลุ่มจำต้องวิ่งมาห้าม ก่อนไม่มีอะไรแย่ลงกว่าเดิม แต่ว่าขณะที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เชลซี เปิดบ้านเชือดเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 คว้าสามแต้มล้ำค่าพร้อมแซง “จิ้งจอกสยาม” ขึ้นรั้งอันดับ 3 แทนมี 67 แต้มส่วน เลสเตอร์มี 66คะแนน

เกมเดือดจัด ซึ่งถ้าหากวันพุธนี้ “ลิเวอร์พูล” บุกไปเอาชนะ เบิร์นลี่ย์ ได้จะมี 66 แต้มเสมอกันโดยทันที แถมหงส์แดงลูกได้เสียจะดีมากกว่าจะแซงขึ้นรั้งอันดับ 4 แทนโดยทันที เดอะค็อปถกสนั่น